สำหรับการรับวัคซีน AstraZeneca เพื่อป้องกันโควิด-19 นั้น ไม่เพียงช่วยให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) เมื่อมีการฉีดวัคซีนมากกว่า 70% ของจำนวนประชากร แต่ยังป้องกันอาการป่วยจากโควิด ป้องกันการติดเชื้อรุนแรงที่ต้องเข้านอนรับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ถึง 100% หลังฉีดเข็มแรก 22 วันไปแล้ว และจากการศึกษาการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในคนไทย พบว่าหลังฉีดเข็มแรก 30 วัน ผู้ใช้วัคซีนมีภูมิคุ้มกันถึง 96.7% รวมทั้งยังช่วยลดอัตราการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาได่สูงถึง 63.0% หลังฉีดเข็มแรก 3 สัปดาห์
อีกทั้ง AstraZeneca ยังระบุเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีน ดังนี้
อาการข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป
น้อยกว่า 60% มีอาการเจ็บบริเวณที่ฉีด
น้อยกว่า 50% มีอาการปวดศรีษะ และ อ่อนเพลีย
น้อยกว่า 40% มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ครั่นเนื้อครั่นตัว
น้อยกว่า 30% มีอาการไข้ หนาวสั่น
น้อยกว่า 20% มีอาการปวดข้อ และ คลื่นไส้
ส่วนอาการข้างเคียงที่พบได้ยาก ข้อมูล AstraZeneca ระบุว่า มีน้อยกว่า 1% ที่มีอาการดังต่อไปนี้
ต่อมน้ำเหลืองโต
เบื่ออาหาร
มึนหรือเวียนศรีษะ
ปวดท้อง
เหงื่อออกมากผิดปกติ
มีผื่นคัน
รวมทั้ง จากข้อมูลการใช้วัคซีนในสหราชอาณาจักพบภาวะลิ่มเลือก 0.000013% ใน 1,000,000 คน7 และจากข้อมูลการใช้วัคซีนในประเทศอินเดียพบภาวะลิ่มเลือด 0.61 ใน 1,000,000 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2564)
ก่อนฉีดวัคซีน จะได้รับการตรวจสอบ ดังนี้
เป็นผู้ที่ไม่มีอาการไข้ขึ้นสูงเกิน 37.5 องศา ในวันที่เข้ารับการฉีดวัคซีนฯ
ไม่มีโรคประจำตัวขั้นรุนแรงที่ไม่สามารถควบคุมโรคได้ ได้แก่ โรคความดัน โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคทางเดินหายใจเรื้องรัง กลุ่มโรคระบบประสาท กลุ่มโรคเบาหวานและโรคอ้วน
ไม่มีประวัติแพ้ยาหรือสารประกอบในกลุ่มที่ระบุ
ผู้มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ความผิดปกติในการแข็งตัวของเกล็ดเลือด หรือผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือด สามารถฉีดวัคซีนได้ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์ฯ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.azcovid-19.com/asia/th/th.html
|